วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2554

เพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network

10 คำแนะนำการเพิ่มประสิทธิภาพ Wireless Network ภายในบ้านของคุณ
จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง มีส่วนทำให้การติดตั้งระบบ Wireless
Network ตามบ้านได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ถึงแม้อุปกรณ์ Wireless Network ในปัจจุบันจะ
มีการพัฒนาเทคโนโลยีการรับส่งสัญญาณให้ดีขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก แต่ในบางครั้งหลายๆท่านก็ยังคงประสบ
ปัญหาสัญญาณอ่อน, การรับส่งสัญญาณช้ากว่าที่ควรจะเป็นอยู่ ดังนั้น Tips & Tricks ในฉบับนี้จึงขอแนะนำ
วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Wireless Network ของคุณอย่างง่ายๆให้คุณลองนำไปประยุกต์ใช้
กันให้เกิดประโยชน์สูงสุดกัน
1. วางตำแหน่ง wireless router ให้อยู่จุดกึ่งกลางของบ้าน
เนื่องจากเสาส่งสัญญาณของ wireless router โดยทั่วไปจะเป็นเสาแบบส่งสัญญาณรอบทิศทาง เป็นรัศมี
วงกลมกระจายออกไป ดังนั้นเพื่อให้การรับส่งสัญญาณไร้สายภายในบ้านมีประสิทธิภาพมากที่สุดจึงควรวาง
ตำแหน่งของ wireless router ในบริเวณกึ่งกลางบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อใช้ประโยชน์จากลักษณะ
การส่งสัญญาณแบบนี้ให้มากที่สุด หากบ้านของคุณเป็นทาวเฮาส์หรือตึกแถวผมแนะนำให้วาง wireless
router ไว้ที่ชั้นกลางของบ้าน จะช่วยให้การรับส่งสัญญาณไร้สายมีประสิทธิภาพสูงสุด
2. หลีกเลี่ยงการวาง Wireless Router ที่พื้น, ติดกำแพง, หรือใกล้โลหะ
นอกจากให้วาง Wireless Router ไว้บริเวณกึ่งกลางบ้านให้มากที่สุดแล้ว คุณยังควรหลีกเลี่ยงการวางไว้ที่พื้น
การวางไว้ติดชิดฝาผนังบ้านโดยเฉพาะผนังคอนกรีต และการวางไว้ใกล้กับเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ที่เป็นโลหะ
เช่นตู้เก็บเอกสารที่ทำด้วยเหล็กไว้ด้วย เพราะทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ประสิทธิภาพในการรับส่ง
สัญญาณไร้สายของตัว Wireless Router มีประสิทธิภาพต่ำลงทั้งสิ้น
3. เปลี่ยนเสาส่งสัญญาณเป็นเสาส่งสัญญาณความถี่สูง
หาก Wireless Router ที่คุณใช้เป็นแบบที่สามารถถอดเปลี่ยนเสาส่งสัญญาณได้ ผมขอแนะนำให้ลองเปลี่ยน
เสาส่งสัญญาณความถี่สูงแบบต่อแยกต่างหากจากตัวเครื่องได้ เพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มรัศมีในการรับส่ง
สัญญาณไร้สายให้กว้างไกลมากขึ้นแล้ว ยังสะดวกสบายในการปรับแต่งเคลื่อนย้ายการวางเสาไปไว้ในตำแหน่งที่
น่าจะส่งสัญญาณกระจายไปทั่วบ้านได้ดีที่สุดได้อีกด้วย
4. เปลี่ยนตัวรับสัญญาณไร้สายในคอมพิวเตอร์ของคุณเป็นแบบ USB Network Adapter
ในบางกรณีการส่งสัญญาณของ Wireless Router ของคุณอาจมีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว แต่การรับสัญญาณที่
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอาจจะยังไม่ดีพอเองก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นหากเครื่องโน้ตบุ๊กองเครื่องใช้ตัวรับ
สัญญาณไร้สาย(Wireless Adapter)แบบ PC Card ที่เสียบติดกับตัวเครื่อง ผมขอแนะนำให้ทดลองเปลี่ยน
มาใช้ตัวรับสัญญาณแบบ USB แบบที่มีสายต่อเชื่อมยาวออกจากตัวเครื่องได้ ซึ่งคุณเคลื่อนย้ายตำแหน่งการจัด
วางเพื่อให้สามารถรับคลื่นสัญญาณจาก Wireless Router ได้ดียิ่งขึ้น
5. เพิ่มรัศมีการรับส่งสัญญาณด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ Access Point เพิ่มเติม
สำหรับคุณมีปัญหาไม่สามารถเคลื่อนย้าย Wireless Router จากตำแหน่งเดิมได้ และประสบปัญหา
คลื่นสัญญาณอ่อน ผมขอแนะนำให้ติดตั้งอุปกรณ์ Access Point เพิ่มเติมอีกหนึ่งจุด ซึ่งเหมือนกับการเพิ่ม
ระยะการรับส่งสัญญาณไปอีกอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัว และนอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มไปในจุดต่างๆได้มากจุด
เท่าที่คุณต้องการได้อีกด้วย โดยให้ตั้งตำแหน่งที่เป็นจุดกึ่งกลางของบริเวณที่คุณต้องการขยายรัศมีการรับส่ง
สัญญาณออกไป
6. เปลี่ยนคลื่นความถี่ในการส่งสัญญาณไร้สายของตัว Wireless Router
ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีในขณะนี้ คุณอาจจะยังไม่มีงบประมาณสำรองในการซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมมาช่วยเพิ่ม
ประสิทธิภาพ Wireless Network ในบ้านของคุณ คุณอาจจะลองใช้วิธีปรับแต่งช่วงความถี่คลื่นในการรับส่ง
สัญญาณของ Wireless Router ของคุณเองก็ได้ โดยปกติ Wireless Router จะมีส่วนของ Wireless
Channel ให้ทดลองปรับเปลี่ยนได้อยู่แล้ว ให้คุณเข้าไปปรับค่าในส่วนนี้ให้ค้นหาคลื่นความถี่ที่ดีที่สุดของคุณ
ส่วนวิธีการปรับเปลี่ยนให้ศึกษาได้จากคู่มือใช้งาน Wireless Router ของคุณเอง
7. พยายามลดคลื่นรบกวนการรับส่งสัญญาณไร้สายให้มากที่สุด
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพในการรับส่งสัญญาณไร้สายลดลงก็คือ การมีคลื่นรบกวนจากอุปกรณ์ต่างๆ
ภายในบ้านที่มีการปล่อยคลื่นความถี่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นเตาไมโครเวฟ, โทรทัศน์, รวมไปถึงเครื่องรับสัญญาณ
ทีวีดาวเทียม โดยเฉพาะอุปกรณ์ไร้สายอย่างเช่นโทรศัพท์ไร้สายที่ใช้ระดับคลื่นความถี่ที่ 2.4GHz ซึ่งเป็นระดับ
เดียวกับ wireless router จะสร้างคลื่นรบกวนให้การรับส่งสัญญาณเป็นอย่างมาก จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้
อุปกรณ์ไร้สายอื่นๆที่ใช้คลื่นความถี่ระดับเดียวกันนี้ภายในบ้า
8. อัพเดทเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์ของอุปกรณ์ไร้สายของคุณให้ใหม่สุด
โดยทั่วไปบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไร้สายจะมีการอัพเดทเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์สำหรับอุปกรณ์ของตัวเองอยู่เป็น
ระยะๆอยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับปรุงการทำงานของตัวเครื่องและรองรับการทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ
และอุปกรณ์ใหม่ๆได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในบางครั้งการอัพเดทยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากยิ่งขึ้นได้อีก
ด้วย ผมจึงขอแนะนำให้คุณเข้าไปดูเว็บของบริษัทผู้ผลิตเป็นระยะๆ หากพบว่ามีอัพเดทใหม่ให้คุณดาวน์โหลดมา
ติดตั้งทันที เพื่อให้คุณสามารถใช้งานระบบ wireless network ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
9. พยายามเลือกซื้ออุปกรณ์ไร้สายต่างๆที่ใช้ร่วมกันจากผู้ผลิตรายเดียวกัน
คุณๆคงจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าถ้าใช้อุปกรณ์จากผู้ผลิตรายเดียวกันจะทำให้ประสิทธิภาพการงานทำโดยร่วม
ของระบบ Wireless Network ของคุณจะดีขึ้น ซึ่งก็เป็นจริงอย่างนั้นจริงๆด้วย เพราะถึงแม้แต่ละ
บริษัทผู้ผลิตจะผลิตอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐานเดียวกันและสามารถทำงานร่วมกันได้จริง แต่ในบางครั้ง
บริษัทผู้ผลิตได้มีการเพิ่มเติมเทคโนโลยี่พิเศษเฉพาะของตัวเองเข้าไป ซึ่งจะทำใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
หากใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่มาจากผู้ผลิตรายเดียวกัน การเลือกซื้ออุปกรณ์ไร้สายต่างๆจากผู้ผลิตเดียวกันจึงเป็น
ทางเลือกที่ดีที่สุด
10. เลือกซื้ออุปกรณ์ไร้สายที่รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11g หรือดีกว่าขึ้นไป
หากคุณพอมีทุนทรัพย์ในการอัพเกรดระบบ Wireless Network เดิมที่ใช้อุปกรณ์ไร้สายมาตรฐาน IEEE
802.11b ให้คุณเลือกซื้ออุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11g เป็นอย่างน้อย ซึ่งมีรัศมีและความเร็วใน
การรับส่งสัญญาณสูงกว่ามาตรฐานเดิมเป็นอย่างมาก แต่ถ้าให้ดีที่สุดควรเลือกซื้ออุปกรณ์ไร้สายที่รองรับ
มาตรฐาน IEEE 802.11n ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่มีความเร็วในการรับส่งสัญญาณได้มากกว่ามาตรฐาน
802.11g ถึง 5 เท่าตัว และที่สำคัญสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์มาตรฐานเก่าได้อีกด้วย
เครดิต synnex
9 วิธีเพิ่มความปลอดภัยให้ระบบ Wireless ของคุณ
ลองมาดู 9 วิธีง่ายๆ ในการเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบ Wireless LAN ของคุณกันดีไหมครับ
1. เปลี่ยน username และ password admin ของตัวอุปกรณ์คุณจากค่ามาตรฐาน
ผมคิดว่าส่วนใหญ่แล้วตัวอุปกรณ์ที่เราใช้ในการกระจายสัญญาณไร้สายคงจะหนีไม่พ้นตัว all-in-one ที่มี
ทั้ง ADSL router+Switch+Access Point ครบในตัว หรือบางคนอาจจะใช้เป็นแบบ Wireless
Router เพราะว่ามีโมเด็มอยู่แล้ว หรือไม่ก็อาจจะใช้เป็น Wireless Access Point เพียวๆ ไปเลย ซึ่งในการ
เซ็ตอัพอุปกรณ์ต่างๆ ที่กล่าวมาเหล่านี้นั้น ทางผู้ผลิตตัวอุปกรณ์จะให้ทำการเซ็ตอัพผ่านหน้าเว็บซึ่งจะต้องมีการ
ใส่ชื่อและรหัส (username&password) ก่อนที่จะทำการเข้าไปเปลี่ยนค่าต่างๆ ได้ [คำไม่พึงประสงค์]
username และ password ที่ว่านี่แหละครับ ที่ควรจะทำการเปลี่ยนไปจากค่าที่โรงงานตั้งให้ เพราะส่วนใหญ่
แล้วเวลาที่ Hacker จะเจาะระบบก็จะใช้ default username และ default password เหล่านี้แหละครับ
ในการลองผิดลองถูกเป็นอันดับแรก? …. แล้วคุณหละ เปลี่ยนหรือยัง?
2. เปิดฟังก์ชั่นการเข้ารหัสแบบ WPA/WEP
ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะไรก็ตามครับจะต้องมีการเข้าหรัส (encryption) ซึ่งโดยหลักการง่ายๆ ก็คือว่าข้อมูลที่
ถูกส่งไปมาอยู่บนอากาศนั้นจะถูกเข้าหรัสก่อนเพื่อไม่ให้ใครก็ตามที่ไม่หวังดีขโมยข้อมูลไปซึ่งก็จะเป็นข้อมูลที่
อ่านไม่รู้เรื่องเพราะโดนเข้ารหัสไว้ ดังนั้นคุณก็ควรที่จะทำการเข้ารหัสที่ว่านี้ไว้ด้วยนะครับ ซึ่งในทุกๆ ครั้งเมื่อ
เราต้องการที่จะทำการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สาย เราก็จะต้องทำการใส่รหัสที่ว่านี้ด้วยครับ หรือถ้าเรามีการบันทึก
ไว้ที่เครื่องของเราอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใส่รหัสที่ว่านี้ครับ อ้อ … ผมแนะนำให้ใช้เป็นแบบ WPA นะครับ จะ
ปลอดภัยกว่า WEP
3. เปลี่ยนค่า SSID จากค่ามาตรฐาน
SSID ย่อมาจากคำว่า Service Set Identify หรือบ้านเราก็เรียกกันง่ายๆ ว่าชื่อเสา wireless นั่นแหละ
ครับ ซึ่งโดยปกติแล้วค่าปกติของชื่อนี้จะถูกเรียกตามชื่อของยี่ห้อสินค้าครับ เช่น NETGEAR ก็จะตั้ง SSID
ของอุปกรณ์ทุกตัวว่า NETGEAR เช่นเดียวกัน จริงอยู่ครับที่การรู้ชื่อ SSID นั้นไม่ได้หมายความว่าใครก็ตาม
จะเจาะเข้ามาใช้ระบบคุณได้ แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นครับ! เมื่อไหร่ก็ตามที่ใครบางคนค้นหาและเจอ default
SSID เค้าจะเห็นได้ทันทีว่าระบบของคุณเป็นระบบที่หละหลวมและอาจจะง่ายต่อการเจาะระบบไงหละครับ …
เปลี่ยนมันเถอะครับ ดีกว่า
4. เปิดฟังก์ชั่น MAC Address Access Control
อุปกรณ์แต่ละตัวที่มีระบบ IP จะต้องมีหมายเลขอยู่หนึ่งชุดที่ใช้ในการระบุตัวตน ภาษาอย่างเป็นทางการเค้า
จะเรียกว่า “MAC Address” หรือบางคนอาจจะเรียกว่า “Hardware Address” หรือ “Physical
Address” ก็ได้นะครับ ซึ่งในอุปรณ์ wireless จำพวก All-in-One, Wireless Router หรือ Wireless
Access Point จะมีฟังก์ชั่นสำหรับตรวจสอบหมายเลข MAC Address ดังกล่าวว่า เพื่อที่จะอนุญาติให้
เฉพาะหมายเลขที่เราต้องการ ใช้งานระบบเครือข่ายของเราได้ …. ฟังก์ชั่นนี้แหละครับที่เค้าเรียกว่า MAC
Address Access Control ซึ่งถ้าเราเปิดฟังก์ชั่นนี้ไว้ เราก็จะสามารถสร้างความปลอดภัยได้เพิ่มขึ้นมาจาก
การเปิดฟังก์ชั่น WPA/WEP Encryption ไงหละครับ
5. ปิดฟังก์ชั่นการกระจายสัญญาณค่า SSID (SSID Broadcast)
จำได้ใช่ไหมครับว่า SSID มันคือชื่อของเสาสัญญาณไร้สายนั่นเอง ซึ่งถ้าเราปิดฟังก์ชั่นการกระจายค่า
SSID แล้วหละก็ เวลาที่ใครเค้าค้นหาเสาสัญญาณก็จะไม่เห็น SSID ของเรายังไงหละครับ และถ้าเวลาที่เราการ
เชื่อมต่อ ก็เพียงแต่ให้เรากรอกค่า SSID ที่เราได้เซ็ตอัพไว้เท่านั้นแหละครับ วิธีนี้ก็ถือเป็นวิธีที่ดีอีกหนึ่งวิธีครับ
6. ใช้ Static IP แทน Automatic IP ให้กับอุปกรณ์ในระบบเครือข่าย
ระบบเครื่อข่ายทั่วไปโดยปกติแล้วจะใช้ระบบ automatic IP โดยมีตัว DHCP เป็นตัวจ่าย IP ไปให้กับ
เครื่องทุกเครื่องในระบบ แต่โชคร้ายที่ฟังก์ชั่นนี้จะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้จู่โจมระบบของคุณไงครับ เพราะ
เพียงแค่เชื่อมต่อเข้ามาได้แล้วก็ได้รับ IP ไปง่ายๆ สบายอุราเลย ดังนั้น ถ้าเครื่องในระบบเครื่อข่ายไม่เยอะนัก การ
ใช้ static IP ก็น่าจะทำให้ระบบมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกระดับนะครับ
7. วางตัว Wireless Router หรือ Access Point ให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย
หลายคนอาจจะงงว่ามันเกี่ยวกันด้วยเหรอ? ลองฟังคำตอบดูนะครับ …
ในปัจจุบันนี้ระยะทางของสัญญาณไร้สายจะครอบคลุมได้ในระดับนึงใช่ไหมครับ ดังนั้นหากว่าเราวางตัว
อุปรณ์ไว้ไกล้ๆ หน้าต่างหรือประตูบ้านแล้วหละก็ คนทั่วๆ ไปที่อยู่ตามท้องถนนหรืออยู่ข้างบ้านของคุณก็อาจจะ
ค้นหาสัญญาณไร้สายของคุณเจอและพยายามทำการเชื่อมต่อเข้ามา แต่ถ้าเราเอาตัวอุปกรณ์กระจายสัญญาณไป
วางไว้ในจุดกึ่งกลางของพื้นที่ที่เราต้องการ คนที่อยู่นอกบ้านเราอาจจะเห็นสัญญาณอ่อนๆ หรือแทบจะไม่มี
สัญญาณเลยไงหละครับ นี่จึงเป็นอีกวิธีที่จะทำให้ระบบเรามีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าเป็นอุปกรณ์
Wireless Access Point สำหรับ Business Series นะครับ เค้าจะมีฟังก์ชั่น Adjust Power
Transmition?ติดมาด้วยครับ ซึ่งเราสามารถเซ็ตได้เลยแหละว่าจะให้ปล่อยสัญญาณความแรงขนาดไหน
เช่น?100%, 75%, 50% หรือ 25% เป็นต้น
8. ปิดระบบต่างๆ ถ้าไม่ได้ใช้นาน แน่นอนที่สุดครับ ถ้าเราไม่ได้ใช้ก็ปิดมันซะ … แล้วใครจะมา hack ได้
หละ ในเมื่อเราปิดมัน กั๊กๆๆ
9. สุดท้ายก็คือต้องทำตามทั้ง 8 ข้อที่บอกมาครับ
อาจจะไม่ต้องทั้งหมด ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของเราเอง ซึ่งก็แน่นอนแหละครับ เมื่อระบบความ
ปลอดภัยมากขึ้น ความยุ่งยากต่างๆ ก็ต้องตามมาด้วย เป็นเรื่องปกติครับ ต้องเลือกเอา …
Article by [คำไม่พึงประสงค์]หนึ่งออนไลน์.คอม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น